ไทย   |     EN
              
     L A U N D R Y

โอโซนในระบบซักผ้า
ปัจจุบันเทคนิคและวิธีต่างๆ ในการซักล้างได้ถูกพัฒนาขึ้นมากเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซักล้างให้ดียิ่งๆ ขึ้น ซึ่งวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันในการซักล้างที่มีระดับความสกปรกสูง เช่น ผ้าในโรงพยาบาล ซึ่งจะมีทั้งผ้าติดเชื้อ ผ้าปนเปื้อนสารเคมีจำพวกยา รวมทั้งผ้าที่ปนเปื้อนของเสีย เช่น คราบเลือด อุจจาระ นิยมกำจัดออกโดยใช้วิธีการซักด้วยสารเคมีและน้ำร้อน

การใช้สารเคมีและน้ำร้อนในการซักล้างนั้น มีจุดมุ่งหมายในการนำน้ำร้อนสารเคมีไปทำความสะอาด ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สารเคมีมีคุณสมบัติในการทำลายและฆ่าเชื้อโรค น้ำร้อนมีคุณสมบัติในการกำจัดคราบสกปรกปนเปื้อน เช่น คราบไขมัน วิธีการซักล้างด้วยสารเคมีนั้นจำเป็นต้องมีการควบคุมที่ดีพอ เพราะสารเคมีที่นำมาฆ่าเชื้อโรคนั้นมีผลกระทบต่อทั้งผู้ซักผ้า ผู้ใช้ผ้า และสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกันกับการซักโดยน้ำร้อน ซึ่งสามารถช่วยกำจัดคราบปนเปื้อนได้จริง แต่ก็มีข้อเสียมากมายที่เกิดขึ้นกับผ้า เช่น ทำให้อายุผ้าสั้นลง สีหมองเร็วขึ้น ทำให้ต้องเติมสารเคมีบางตัวเพิ่มเข้าไปเพื่อรักษาคุณภาพของผ้า และยังสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการต้มน้ำอีกด้วย
ทางเลือกใหม่ที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาจากการใช้สารเคมีและน้ำร้อนในระบบซักล้าง ก็คือ การนำเอาเทคโนโลยีโอโซนมาใช้แทนน้ำร้อน และช่วยให้ลดการใช้สารเคมีลงได้ 10-30% ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณภาพของผ้าดีกว่าการใช้ระบบเดิมแล้ว ยังช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงานในระบบซักล้าง อีกทั้งยังช่วยรักษาสภาพแวดล้อมทั้งภายในห้องซักล้าง และสภาพแวดล้อมของชุมชนภายนอกอีกด้วย
ขั้นตอนการกำจัดเชื้อโรคของโอโซน

  • กระตุ้นจับจำนวนเชื้อแบคทีเรีย
  • ปิดกั้นอณูของผนังเซลล์
  • โอโซนเข้าแทรกซึม กัดกร่อนทำลายระบบผนังเซลล์ ของ แบคทีเรียให้แตกสลายไป
เนื่องจากโอโซนเป็นอนุภาคสสารที่ไม่เสถียรภาพ โอโซนจะคอยพยายามจับตัวกับอนุภาคและทำปฎิกิริยาออกซิเดชั่น(Oxidation Potential)  โดยเมื่อจับตัวกับผนังเซลล์ของเชื้อโรคโอโซนจะแทรกซึมกัดกร่อนทำลายผนังเซลล์ ให้สลายไปการสลายตัวของผนังเซลล์จะทำให้เชื้อโรคไม่สามารถทำปฎิกิริยา เมตาบอริสซึมได้   (ขบวนการสังเคราะห์อาหาร) เมื่อใช้โอโซนในระบบการซักล้าง ก็จะสามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคภายในผ้าได้ ดียิ่งขึ้น รวมทั้งโอโซนมีคุณสมบัติในการฟอกสีและกลิ่น จึงกล่าวได้ว่าการใช้โอโซนในระบบซักล้างนั้นสามารถลดจำนวนการใช้สารเคมีในการกำจัดเชื้อโรคต่างๆ และยังลดสารเคมีที่ใช้ปรับปรุงคุณภาพของผ้าได้โดยรวมซึ่งสามารถลดได้ 10 - 30 %  โดยไม่ทำให้คุณภาพของผ้าลดลง
คุณสมบัติของก๊าซ โอโซน (O3)
  มีกลิ่นคาวปลา สีน้ำเงินเข้ม มีสถานะเป็นก๊าซ ไม่เสถียร
  มีความหนาแน่นเท่ากับ 150% ของออกซิเจน
  สามารถละลายน้ำได้ดีกว่าออกซิเจน
  สามารถทำปฎิกิริยาออกซิเดชั่นกับสารอินทรีย์ และสารอนินทรีย์เกือบทุกชนิด สูงกว่าคลอรีนถึง 152%
  มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อที่รุนแรงและเร็วกว่าคลอรีนถึง 3,125 เท่า
  สามารถทำลายและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
  มีคุณสมบัติในการฟอกสี สลายกลิ่นเหม็น กลิ่นอับชื้น กลิ่นต่าง ๆ
ลักษณะการทำงานของเครื่องซักผ้าเมื่ออยู่ในสภาวะใช้โอโซน
ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ระบบโอโซนในการซักผ้า
ด้านพลังงาน

  ลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในการซักผ้า 100%
  ลดค่าไฟฟ้าได้ 5-10%
  ลดค่าน้ำ 20-40%
  ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องซักผ้า
  ลดระยะเวลาการทำงานของเครื่องซักผ้า 5-30%
  ลดระยะเวลาการอบผ้า 10-20%
ด้านสิ่งแวดล้อม

  ลดการใช้สารเคมีได้ 10-30%
  ลดปริมาณสารตกค้างในน้ำทิ้งจากการซัก
  ลดค่า BOD และ COD ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสีย
  ลดการเผาไหม้ของ Boiler ได้
ด้านการทำงาน

  เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจากเวลาที่ลดลง
  สภาพแวดล้อมการทำงานดีขึ้นเพราะอุณหภูมิในห้องซักผ้าลดลง
  คุณภาพของผ้าสะอาด ปราศจากเชื้อโรค
  คุณภาพเนื้อผ้านุ่มขึ้น ไม่เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
  ช่วยถนอมเนื้อผ้าให้อายุการใช้งานนานขึ้น
ด้านการบำรุงรักษา

  ยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้า
  ลดค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาเครื่องซักผ้า
  รอบในการเปลี่ยนผ้ายาวนานขึ้น
  ยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายของเครื่องอบผ้าเพราะลดเวลาอบ
  
บริษัท เครสโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
1/64 หมู่ที่ 4 ตําบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี
จังหวัดนนทบุรี 11000

  
TEL
02-966-5099 (Auto), 02-966-7017-19
098-9496691083-995-5332 (Mobile)

ADD LINE creco 2018
COPYRIGHT©2009 CRESCO CORPORATION. All RIGHTS RESERVED.
STATS T-49 M-917 Y-2852 A-2852   I   Designed by Thaiwebcreate.com